พุยพุย

Teenagers

Teenagers







  Teenagers mean age with changes in body. In a manar that is ready to fuck. With the derelop ment of the child mental poriod to mature.
      วัยรุ่น หมายถึง ช่วงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ในลักษณะที่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ได้ เป็นระยะที่มีกรพัฒนาทางจิตใจมาจากความเป็นเด็ก ไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่


      The teenagers divided into 3 stages

1.Earty adolescents. The girl at the age of 10-14 year, boy at the age of 12-16 years.In this is changing
วัยรุ่นตอนต้น ผู้หญิงอายุ 10-14 ปี ผู้ชายอายุ 12-16 ปี

The behariour พฤติกรรม

The body changes very quickly มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • ค่อนข้างหลงตัวเอง (Narcissistic phase)
  • มีความเพ้อฝัน (Magical Thinking)
  • มีความเป็นอิสระ (Emancipation)



2.Middle adolescence. The girls are in the age of 14-18 years , boy at the age of 16-20 years.
วัยรุ่นตอนกลาง ผู้หญิงอายุ 14-18 ปี,ผู้ชาย 16-20 ปี

The behariour พฤติกรรม

 Periodically the hothead tenacity often conflicts with parents,high เป็นระยะที่ดื้อรั้น โมโหง่าย มักจะมีความขัดแย้งกับพ่อแม่
  • เพื่อนมีอิทธิพลอย่างมาก(Highly influential friends)
  • มีความเพ้อฝัน (Magical Thinking)
  • เริ่มที่จะดึงดูดเพศตรงข้าม(Began to attract the opposite sex)



3.Teens at the and. The girls are in the range between the ages of 18-20 years of age for boys is in the range of 20-22 years.
วัยรุ่นตอนปลาย ผู้หญิงอายุ 18-20 ปี ผู้ชายอายุ 20-22 ปี

The behariour พฤติกรรม
  • รู้จักบทบาทของเพศเต็มที่(Recognize - the role of sex itself fully )
  • มีชีวิตที่เป็นอิสระอย่างเต็มที่ และการประกอบอาชีพ(There is a fully independent life. And occupation)
  • ค่อนข้างยอมรับการให้คำแนะนำได้ง่ายกว่าวัยต้นๆ(Somewhat agree to allow easier  top teen advice)


The emotions อารมณ์

  • ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย (Anxiety about body changes.)
  • มีความรักเพื่อน หรือเพศตรงข้ามจะรู้สึกรุนแรง(If there is love, friends or sex will feel opposite.)
  •  ความวิตกกังวลอารมณ์ทางเพศสูง( Anxiety sexual high.)

The cause. สาเหตุ 
  • ไม่มีความรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง(No knowledge about sexual intercourse.)

  • การอยู่กันสองต่อสองในที่ลับตาคน(To stay together in secret. )
  • การใช้สารเสพติด  (The use of drugs.)

สรุป วัยรุ่นเป็นเวลาแห่งการ
  • ค้นหาเพื่อให้รู้จักตนเอง 
  •  แสวงหาให้รู้จักสังคมและโลกภายนอก 
  •  ปรารถนาใครสักคนหนึ่งที่เข้าใจ รักใคร่ ใกล้ชิด และผูกพันด้วย 
  •  ความรัก ความสวยงามความสมหวังซึ่งอาจเปลี่ยนเป็นความรู้สึกมืดมน ผิดหวัง ว้าเหว่โดดเดี่ยว 
  •  คิดเพ้อฝัน จิตนาการกว้างไกล  ผจญภัย ทดลอง ชอบเสี่ยง 
  • อารมณ์ ผันผวน ไม่หนักแน่น

          Words 







1.Bae = ที่รัก ใช้เรียกชื่อแฟนหรือคนรักนั่นเอง ซึ่งมันก็เหมือน baby

2.Dope = ส่วนใหญ่เขาจะใช้กันในความหมายเชิงว่าดี หรือ ทำอะไรที่เจ๋ง very good

3.YOLO = you only live once ชีวิตนี้มีครั้งเดียว สนุกให้เต็มที่กับชีวิต

4.Fancy = Like fancy หมายถึง ชอบ ค่ะ I fancy him ฉันชอบเขานะ

5. Sry = sorry มันคือ ขอโทษนั่นเอง

6. Ttyl = talk to you later หมายถึงคุยกันทีหลังไงจ๊ะ

7. Gosh = God คำอุทาน ความหมายแปลว่า โอ้ พระเจ้า โอว้จอร์ดมันยอดมาก!

8. BFF = best friends forever = เพื่อนกันตลอดไป เพื่อนรัก

9.XOXO = Hugs and kisses กอดๆๆ จุ๊บๆเหมือนในซีรีย์ Gossip girl xoxo

10.Quite well = แปลว่า ค่อนข้างจะดี

11.Nerd = พวกเรียนเก่งแต่เข้าสังคมไม่ได้, พวกทำตัวเฉิ่ม

12.Geek = พวกเรียนเก่งแต่เข้าสังคมไม่ได้

13.Sleepy head = ขี้เซา

14.For shame = แปลว่า น่าอายจริงเลย

15.Oh boy หรือ Oh! man = โอ้ ให้ตายสิ

16. Ain’t = คำนี้เดิมทีเป็นคำสแลงของ am not แต่สามารถใช้แบบไม่เป็นทางการได้ เพราะถือว่าเป็นคำที่ผิดหลักไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น If I Ain’t Got You ของ Alicia Keys ถ้าฉันไม่มีเธอ

17.Pop some tags = ไปช็อปปิ้งกันดีกว่า เหมือนเพลง Thrift Shop ร้องว่า " I'm gonna pop some tags Only got twenty dollars " ฉันจะออกไปช็อปปิ้ง แต่มีตังค์แค่20ดอล

18. Wicked = ชั่วร้าย แต่ใช้ในเชิงสแลงว่า เจ๋งมาก

19.Dandy = พอดี, ดีเยี่ยม

20.Onlineness = การใช้เวลาในโลกออนไลน์ทั้งวันทั้งคืน และนี่เป็นหนทางไปสู่ loneliness (ความโดดเดี่ยว) มาจากคำว่า online + loneliness

21.Glamping =การพักแรมที่แสนวิเศษ (ย่อจาก Glamorous กับ camping นั่นเอง) เต็มไปด้วยความหรูหรา ผิดจากการพักในเต้นท์นอนปกติ แบบไร้ซึ่งความลำบากใดๆ เต็มไปด้วยของใช้หรูหรา และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กระโจม หรือ ห้องเคบิน.

22.Meh (เมะ) ใช้เมื่อบางสิ่งค่อนข้างไร้แรงบันดาลใจ หรือไม่ค่อยน่าสนใจ สามารถเอาไปใช้ในการอธิบายความรู้สึกที่หมดความสนใจหรือน่าเบื่อได้

ตัวอย่างเช่น The film was a bit meh. (หนังเรื่องนี้ค่อนข้างน่าเบื่อไปนิด)

23.Earworm (เอียรฺเวิม)หมายถึง เพลงหรือเสียงอะไรก็ตามที่ฟังแล้วติดหูทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน

ตัวอย่างเช่น That new Taylor Swift song is such an earworm! (เพลงใหม่ของเทเลอร์ สวิฟท์ เพลงนั้นติดหูดีจริงๆ)

24.Homie หรือ homeboy หรือ Homegirl= เพื่อนสนิท หรือเพื่อนบ้านที่โตมาด้วยกัน หรือใช้เป็นสแลงแทน เพื่อนที่รู้จักมานาน ก็ได้

25.Shorty หรือ Shawty = สาวๆ, ผู้หญิง,เด็กสาวหรือบางทีหมายถึงแฟนสาว สั้นๆได้ใจความจ้า

26.Trip หรือ Trippin = คำนี้จะหมายถึง อาการทำอะไรไม่ถูก หรือ อาการลนอะคะ น่าจะพอนึกออก เช่น เรากำลังจะเดินผ่านคนที่เราชอบ แล้วเราก็แบบ...ทำตัวไม่ถูก เพื่อนเราก็อาจจะพูดว่า “you are trippin’!”

27.Booty = คำสแลงนี้แทนคำว่า บั้นทาย หรือ ก้น นั้นเองค่ะ เพื่อให้คำนี้ฟังดูน่ารักขึ้นเลยได้คำว่า Booty! นี้แหละค่ะ

28.Fly = ในศัพท์แสลงหมายถึง เท่ห์ เจ๋ง มีสไตล์

29. ASSHOLE = (ใช้ด่าเฉพาะผู้ชาย-ความหมายแรง)?ความหมายตรงตัวแปลว่ารูตูด แต่ภาษาพูดแปลว่า อีตาบ้า,ไอ้บ้า?

30.WANNABE = พวกอยากป็อปแต่ไม่ป็อปซะที








อ้างอิง :blogspot.com/http://www.sopon.ac.th




















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น